รายละเอียด
ทริปนรก ภูพระดาง ตาดซาววา
📍เข้ากลุ่มโลด>>> https://line.me/ti/g/LNo6K0jSqC
เทือกเขาอันนัม แกนกลางของอินโดจีน ช่วงตอนต้นตั้งแต่พรมแดน “แขวงหลวงพะบาง-เวียงจันทน์” ไปจรดแดนลาว-เวียดนามนั้น เป็นแหล่งรวบรวมยอดเขาที่มีความสูงเกินกว่า 2500m ของประเทศลาวไว้หมดทั้ง “พูเบี้ย” (ภูเบี้ย) 2830m, Phou Xai Lai Leng 2720m, Phou Samsoum 2600m, Phou Xao 2560m ซึ่งเป็นแนวเทือกเขาที่คั่นพื้นที่ของชาวพวน(เชียงขวาง), ชาวไทดำ-ไทขาว(หัวพัน) ออกจากพื้นที่ลาวเวียง และมีระดับความสูงเพียงพอที่จะเป็นปราการด่านสุดท้ายด้านในลึกสุดของแผ่นดิน ขวางกั้นเอาความชื้นจากกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ให้เกิดฝนตกชุกบริเวณด้านหน้าของภูเขา ซึ่งก็คือพื้นที่บางส่วนของ “แขวงไซสมบูน-เวียงจัน-บอลิคำไซ” และจังหวัดบึงกาฬ ครอบคลุมเขต “ป่าสะหงวนแห่งชาดพูเขาควาย” (อุทยานแห่งชาติภูเขาควาย) ด้วย จึงกลายเป็นหนึ่งในเขตที่มีฝนตกชุกมากที่สุดของประเทศ
สุดชายขอบด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเขต “ป่าสะหงวนแห่งชาดพูเขาควาย” ที่บรรจบกับ “อ่างน้ำงึม 1” นั้น มีพื้นที่ในซอกเขาที่น่าสนใจทั้ง
“พูเก้านาง” (e1186m) เรื่องเล่าถึงผู้หญิง9คนที่หายสาบสูญไปบนภูเขาแห่งนี้ ซึ่งด้านบนมีต้นสนสามใบ (ต้นแปก) ขึ้นปะปนอยู่ ส่วนด้านล่างเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านในนามเดียวกับภูเขา หมู่บ้านชาวเย้าเก่าแก่ที่เคยตั้งถิ่นฐานในหุบเขาด้านในมาก่อน ก่อนจะย้ายมาตั้งอยู่ริม “อ่างน้ำงึม 1” ในปัจจุบัน เป็นหมู่บ้านที่ติดต่อกับโลกภายนอกได้ด้วยทางเรือเท่านั้น
ไม่ไกลจากท้ายไร่ของ “บ้านพูเก้านาง” เป็นที่ตั้งของน้ำตกที่ประกอบด้วย3ชั้นใหญ่ๆ คือ “ตาดปาย” ชั้นล่าง ,”ตาดกาง” ชั้นกลาง และ “ตาดซาววา” ชั้นบน ที่มีความสูงของตัวน้ำตกกว่า 50 เมตร
“พูซ้าง” (e1666m) ภูเขาที่สูงสุดในเขต “ป่าสะหงวนแห่งชาดพูเขาควาย” ด้านฝั่งตะวันตก เป็นภูเขาที่ตั้งซ้อนอยู่บนภูเขาอีกชั้น เดิมเคยเป็นดงช้างป่าอาศัยอยู่มากมาย ปัจจุบันช้างป่าได้ย้ายถิ่นไปอาศัยยังฝั่งน้ำลึกหมดแล้ว นอกจากนี้ บริเวณใกล้ๆ ยอดเคยเป็นดงไม้ “โลเล” (ไม้ใหญ่ตระกูลไม้หอมเนื้อแข็ง) ที่มีมากมาย ก่อนจะถูกตัดโค่นไปหมดสมัยใช้เป็นฐานที่มั่นของฝรั่งเศส จนกลายเป็นลานทุ่งหญ้ากว้างใหญ่แทน ส่วนบริเวณยอดสามารถเห็นวิวได้รอบทิศ ทั้ง “พูกองข้าว”, “พูเขาควาย” (e1039m),
ส่วนอีกฟากฝั่งด้านทิศเหนือของภูเขาที่ตั้งซ้อนอยู่บนภูเขาอีกชั้น คือ “พูพะดาง” (e1621m) เป็นที่ตั้งประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณศิลปะขอมหลายองค์ บูรณะล่าสุดเมื่อปี 2017 มานี้เอง ยังรอคอยการค้นหาที่มาของพระพุทธรูปต่อไป นอกจากยังเป็นหน้าผาตัดที่สามารถมองเห็น “ผานางนอน”, “อ่างน้ำงึม1″ ที่ประกอบด้วยเกาะแก่งต่างๆ ไปจนถึงริ้วเทือกเขาอันนัมใน”แขวงไซสมบูน” อีกด้วย
ใครจะเชื่อว่า หมู่บ้านกลางเขื่อนน้ำงึม ที่ไม่มีถนนตัดผ่าน เดินทางได้เพียงแค่ทางเรือ จะมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่สวยงามรายล้อมอยู่
และที่มากไปกว่านั้น คือวิวน้ำตกที่สูงเกิน 100 เมตร, แผ่นเปลือกโลกที่ถูกดันตัวขึ้นเมื่อหลายแสนปีทำให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา บังคับให้เราได้ออกไปพิสูจน์ความสวยงามด้วยตัวเอง
เส้นทาง
DAY 1 : หมู่บ้านภูเก้านาง – แคมป์ตาดกลาง – ตาดซาววา
DAY 2 : แคมป์ตาดกลาง – ลานอเมริกา
DAY 3 : ลานอเมริกา – กูบช้าง – ภูช้าง – ภูผาได – ยอดภูพระดาง – ลานแคมป์ภูพระดาง
DAY 4 : แคมป์ภูพระดาง – บ้านภูเก้านาง
แผนการเดินทาง
DAY 0 : 18 กรกฏาคม 2567
20.00 น. รวมพลที่บิ๊กซีสะพานควายเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางด้วยรถตู้ (หรือตามจุดนัดหมาย มุ่งหน้าด่านหนองคาย)
DAY 1 : 19 กรกฏาคม 2567 ( – / – / D )
ถึงจังหวัดหนองคาย รับประทานอาหารเช้าง่ายๆ พร้อมซื้อข้าวเที่ยงไว้ทานระหว่างทาง ล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวข้ามด่านทำเอกสารข้ามด่าน หากใครต้องการซื้อซิมการ์ดสามารถซื้อได้ที่ฝั่งลาว
หลังจากนั้น มุ่งหน้าจากเวียงจันทน์ ไป ท่าเรือน้ำงึม เพื่อข้ามเรือไปยังหมู่บ้าน (ไม่มีทางถนนเข้าไป) เดินทางถึงท่าเรือ ขนสัมภาระลงเรือไปยังหมู่บ้าน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็ถึงหมู่บ้านภูเก้านางครับ แวะรับประทานอาหารกลางวัน จัดกระเป๋าเป้ และสัมภาระส่วนตัว ที่บ้านคนนำทาง อะไรไม่ใช้ฝากไว้ที่นี่ครับ และนั่งเรือไปยังจุดเริ่มเดิน ในวันแรกจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง ดันจากจุดเริ่มเดินไปยังแคมป์ตาดกลาง เดินเลาะไร่ของชาวบ้าน และข้ามน้ำห้วยใหญ่หนึ่งจุด ใช้เวลาเดินเท้าลัดเลาะตามภูมิประเทศ ก่อนะจะไปถึงแคมป์ตาดกลาง ถึงแล้วพักผ่อน จับจองที่นอนกันสุกครู่ ชื่นชมความยิ่งใหญ่และความงดงามของน้ำตกตาดซาววา วิวตรงหน้าที่พักของเราเลย พักผ่อนอาบน้ำตามอัธยาศัย ก่อนล้อมวงทานข้าว และเผลอหลับไปตอนไหนโดยไม่รู้ตัว
DAY 2 : 20 กรกฏาคม 2567 ( B / L / D )
ตื่นเช้ามาเก็บสัมภาระ ทานข้าวเช้า พร้อมห่อข้าวเที่ยงให้เรียบร้อย จุดมุ่งหมายของเราในวันนี้ เดินจากตาดกลาง เพื่อไปยังเพลทต่อไป บริเวณลานกว้างลานอเมริกา ที่ภูพระดาง ตลอดระยะทาง มีชันสลับกับทางราบ ไปจนถึงบริเวณทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตาในช่วงบ่ายแก่ๆ แวะทานข้าวเที่ยงที่เพลทสอง ก่อนถึงบันไดสวรรค์ เมื่อท้องได้เติมพลังงานเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้น ดันขึ้นเพลทสาม จากทางบันไดสวรรค์ ที่ไม่ง่ายแน่นอน แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเราครับ วันนี้หนักหน่อย แต่ความงามรอบตัวทำให้เราได้ซึมซับบรรยากาศดีๆ แน่นอน ถึงเพลทสามสามแล้ว เดินไปยังลานอเมริกาเพื่อกางเต็นท์ จัดแจงสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อย ไม่เกิน ห้าโมงเย็น ชื่นชมกับบรรยากาศยามเย็น ก่อนจะล้มตัวพักผ่อนตามอัธยาศัยครับ
DAY 3 : 21 กรกฏาคม 2567 ( B / L / D )
เดินสำรวจบริเวณรอบๆ ภูช้าง และหินครกจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดินเลาะตามแผ่นเปลือกโลกที่ถูกยกตัว ระยะทางประมาณ 10-15 กิโลเมตร เพื่อมายังบริเวณภูพระดาง รูปแกะสลักพระนอน และพระพุทธรูปที่ประดิษฐสถานอยู่บ้านยอดด้านบนของหมู่บ้าน กับวิวเลเยอร์ภูเขา ตัดกับสีน้ำเงินสวยงามของเขื่อนน้ำงึมที่เต็มไปด้วยเกาะแก่งมากมายจนได้ชื่อเป็นทะเลของประเทศลาว (ลาวไม่มีพื้นที่ติดทะเล) ก่อนที่จะตัดลงไปพักแคมป์ที่ต่ำลงไปประมาณ 300 เมตร หาที่พัก กางเต็นท์กันตามอัธยาศัย ใครอยากอาบน้ำ จะมีจุดอาบน้ำที่ใกล้เคียง นอนพักกันสัดนิด ก่อนจะกลับมาชมแสงเย็นที่สวยงามบริเวณแคมป์ของเรา ทานอาหารเย็น และแยกย้ายกันพักผ่อนครับ
DAY 4 : 22 กรกฏาคม 2567 ( B / L / – )
ถ้าใครไม่แฮงค์เหล้าก็จะเจอกับวิวยามเช้าที่สวยงาม ส่วนใครแฮงค์เหล้าก็ตื่นมากินข้าให้ทันก็พอ สายๆ หน่อยไม่เกิน 9 โมง เราก็จะตัดแนวดิ่งลงไปที่หมู่บ้าน จัดแจงสัมภาระ อาบน้ำให้เรียบร้อย แพ๊คของขึ้นเรือ ก่อนจะเดินทางกลับไปยังท่าเรือ ระหว่างทางชาวบ้านจะพาเยี่ยมชมทัศนียภาพภายในเขื่อนน้ำงึม แวะตามเกาะแก่งต่างๆ ไม่เกินบ่ายสองถึงท่าเรือ เปลี่ยนเป็นรถตู้ มุ่งหน้ากลับสู่นครหลวงเวียงจันทน์ ถ้ามีเวลาว่างแวะตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ต่างๆ ภายในตัวเมือง ก่อนเวลาสี่โมงเย็น ข้ามด่านกลับสู่ประเทศไทย และทานอาหารเย็นชมวิวฝั่งแม่น้ำโขงที่หนองคาย ก่อนเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร
DAY 5 : 23 กรกฏาคม 2567
ถึงกทม. ก่อนเวลา ตีสี่ครึ่งครับ
(B – Breakfast, L – Lunch, D – Dinner)
ค่าใช้จ่ายนี้รวม
ค่าใช้จ่ายนี้รวม
ค่ารถตู้เดินทางจากกทม.
ประกันการเดินทาง
ค่าที่พักตามโปรแกรม
อาหาร 9 มื้อ ตามที่ระบุในโปรแกรมครับ
ค่าบำรุงชุมชน
ค่าเดินทางด้วยเรือ และชมเขื่อน
ไม่รวม
1. ค่าใช้จ่ายลูกหาบตกกิโลกรัมละ 80 บาท / วัน หรือ 320 บาท ตลอดทริปครับ
2. ค่าธรรมเนียมผ่านแดนด้วยพาสปอร์ต ( 40 บาท )
3. รถโดยสารที่เดินทางข้ามแดนจากด่านหนองคาย ไปเวียงจันทน์ ( 60 บาท )
อุปกรณ์แคมป์ปิ้งสำหรับยืมใช้งานในกรณีที่ไม่มีส่วนตัว
ถุงนอนฟรี ไม่คิดค่าบริการ
เต็นท์ หลังละ 200 บาท ตลอดทริป ทุกขนาด ไม่รวมค่าแบกในกรณีจ้างลูกหาบ