มูละอิ ขุนเขาแห่งศรัทธา – น้ำตกซุการี


มูละอิ ขุนเขาแห่งศรัทธา – น้ำตกซุการี

8 – 10 พฤศจิกายน 2567

4,750.00฿

คงเหลือ 17 ที่นั่ง

รายละเอียด

เนิ่นนานมาแล้วที่ในดินแดนกะเหรี่ยงพุทธ DKBA มีเรื่องราวตำนานของภูเขาที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 4 ของเทพเจ้าผู้คุ้มครองดินแดน
1 ใน 4 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นก็คือ มุลาอิ ( โมโกตู หรือ มะม่วงสามหมื่น, ดอยพะวี, เมะลาอะ และ มุลาอิ ) ของชาวกะเหรี่ยงพุทธ (DKBA) ในจังหวัดเมียวดี สหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากชายแดนไทย ฝั่ง อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ประมาณ 40 กิโลเมตร
“มุลาอิ” เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขา Dawna Hills อันประกอบด้วยยอดเขาสูงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของนักเดินป่าไทย ได้แก่ มุลาอิ เมะลาอะ ดอยพะวี และดอยมะม่วงสามหมื่น ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงแล้ว บนยอดเขามุลาอิเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
ความเชื่อ ความศรัทธา และธรรมเนียมปฏิบัติของชาวพุทธกะเหรี่ยง ยังคงฝังแน่น และแตกต่างจากความเชื่อแบบไทยพุทธ และด้วยวิวที่สวยงาม ทำให้พื้นที่นี้ เป็นพื้นที่ที่ถวิลหาของนักท่องเที่ยวชาวไทยมากมายจริงๆ
การข้ามแดนในครั้งนี้ เป็นการข้ามตามพรมแดนธรรมชาติ โดยปกติแล้วจะใช้วิธีขออนุญาตจากทหารที่พรมแดน โปรดศึกษาความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วยนะครับ

แผนการเดินทาง

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567
19.30 น. รวมพลที่บิ๊กซีสะพานควาย ทานข้าวรอก่อนได้นะครับ
20.00 น. ออกเดินทางไปจังหวัดตาก

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ( B – L – D )
– เช้าที่สำนักสงฆ์ เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพร้อมเดินป่า อุปกรณ์กันฝุ่นให้พร้อม กินมื้อเช้า  เปลี่ยนเป็นรถพม่า เดินทางปุเลงๆ ไปในดินแดนกะเหรี่ยง รถถึงที่วัด ขนของทุกคนไปที่แคมป์เพื่อไปกางแคมป์ก่อน ไปช้าเดี๋ยวไม่มีที่กาง หลังจากกางแคมป์กันเสร็จหมดแล้ว ก็เดินย้อนกลับมาที่วัด เพื่อขึ้นไปไหว้พระธาตุ หลังจากไหว้พระธาตุเสร็จหมดแล้ว ก็ลงไปที่แคมป์เพื่อไปดูอาทิตย์ตกที่แคมป์ คืนนี้นอนเต๊นท์ชมบรรยากาศสบายๆ อาหารการกินที่นี่จะเป็นอาหารที่ละเว้นซึ่งเนื้อสัตว์นะครับ

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ( B – L – D )
ตื่นเช้ามาชมวิว เก็บสัมภาระ ก่อนจะมาล้อมวงรับประทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ ก่อนจะเดินลงกลับทางเดิม มาทางไหนกลับทางนั้นเลยครับ
เช้านี้ก็ต้องทานเจ ใช้เวลาตอนเช้า เดินลงไปตามหน้าผา ทุ่งหญ้า ถ่ายรูปแสงเช้า ทะเลหมอก ไม่เกินสิบโมง ค่อยเก็บแคมป์และเดินลงไปตามสันเขา ลงอย่างเดียว ระยะทางประมาณ 6กิโลเมตร เดินตามร่องเขาไปเรื่อย ๆ บ่ายแก่ ๆ ก็จะเข้าเขตน้ำตกซุการี กางแคมป์ทำทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินตัวเปล่าไปดูน้ำตกแวะเล่นน้ำตกขากลับ
– ค่ำ ๆ เข้าแคมป์กลางกินอาหารอย่างหนำใจ ก่อนจะเข้านอนอย่างเรียบง่าย

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ( B – L )
ตื่นเช้ามานั่งชิล ๆดูสายน้ำที่แคมป์ตอนเช้า หลังจากเก็บแคมปืเสร็จก็ได้เวลาเดินกลับไปขึ้นรถกระบะที่ หมู่บ้าน เดินประมาณ 1-2ชั่วโมง เดินตามทางไร่นาชาวบ้าน
– ก่อนเที่ยงคิดว่าทุกคนถึงหมู่บ้านกันแล้ว นั่งรถกระบะกลับฝั่งไทย ข้ามฝั่งไทยมากินมื้อเที่ยง หลังจากนั้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมนั่งรถตู้กลับ กทม

หมายเหตุ: B = Breakfast, L = Lunch, D = Dinner

ค่าใช้จ่ายนี้รวม

– ค่ารถตู้เดินทางจากกทม.
– ค่าเข้าสถานที่ และค่าบำรุงชุมชน
– ค่ารถ 4WD เดินทางเข้าพื้นที่
– ลูกหาบของกองกลาง
– ประกันการเดินทาง
– อาหาร 8 มื้อ