รายละเอียด
The Chadar Expedition Trek
อุณหภูมิ -10 ถึง -30 องศาเซลเซียส และความสูงโดยเฉลี่ย 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเลตลอดทริป
วิถีชีวิตที่เคารพธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
เส้นทางเทรคบนธารน้ำแข็งแม่น้ำซานสการ์ แห่งเลห์ ลาดักห์ อินเดีย
45 of 365 Days หรือตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม จนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ในแต่ละปี คือจำนวนวันที่สมาคมการท่องเที่ยวของเมืองเลห์ อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย ท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง ได้มาพิชิตเส้นทาง ชาดาร์ เทรค เชื่อมเมือง TSOMO – NAERAK ในระยะทางร่วมๆ 60 กิโลเมตร ตลอดระยะเวลา 5 วัน 4 คืน กับความหนาวที่ -10 องศาเซลเซียสในตอนกลางวัน และลากยาวไปจนถึง -30 องศาเซลเซียสในยามค่ำคืน
ถึงแม้เส้นทางจะไม่ได้มีการข้ามพาสใหญ่ๆ หรือไต่ความสูงที่ต้องใช้พละกำลังมากมาย สิ่งที่ต้องต่อสู้ด้วยคือสภาพอากาศที่หนาวติดลบตลอดเส้นทาง และสภาพอากาศที่เบาบางจากความสูงที่เกิน 3250 เมตรจากระดับน้ำทะเล และความอันตรายของเส้นทางบนแม่น้ำซานสการ์ ที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่า วันไหนอากาศดีพอที่ทำให้เราทำเวลาในการเดินได้ดี หรือถ้าเจอสภาพอากาศที่เลวร้าย ก็จะทำให้การเดินทางในแต่ละวัน ยากขึ้นตามลำดับ
การต่อสู้กับสภาพจิตใจของตนเอง ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ก้าวพ้นจากอัตตาและยอมรับถึงตัวตนของเรา สิ่งหนึ่งที่มนุษย์เราไม่สามารถควบคุมได้ก็คือธรรมชาติ และสิ่งสำคัญที่มนุษย์ควบคุมได้ ก็คือจิตใจของเราเอง เช่นกัน
Chadar มีความหมายว่า ผ้าคลุม ปกคลุม ในที่นี้หมายถึงน้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่บนผิวแม่น้ำ
แม่น้ำซานสการ์ ( Zanskar ) เป็นแม่น้ำในเขตลาดักห์ที่จะไหลไปรวมกับแม่น้ำสินธุ ( Indus ) ในช่วงหน้าหนาวผิวหน้าของแม่น้ำซันสการ์จะกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งคนในพื้นที่ ที่มีอาณาเขตติดกับแม่น้ำซันสการ์จะติดต่อโลกภายนอกโดยใช้การเดินเท้าบนแม่น้ำที่เป็นน้ำแข็ง เพราะด้วยเส้นทางสัญจรอื่นๆ ถูกหิมะตัดขาดไม่อาจใช้งานได้
เส้นทางเดินเท้าอันสุดโหดสายนี้กลายเป็นเส้นทางที่คนรู้จักขึ้นมาเพราะ Discovery channel และ National Geographic channel นำเรื่องราวของคุณพ่อ ที่เดินเท้าส่งลูกชายมาเรียนหนังสือที่ตัวเมืองลาดักห์ อันเป็นที่กล่าวขานของนักผจญภัยทั่วทุกมุมโลก และรวมถึงทีมงานคัมอรด้วยเช่นกัน
ความสำคัญของเส้นทางนี้ คือเป็นเส้นทางการนำสินค้ามาขายจากเมือง Zanskar มายังเมือง Leh ในช่วงฤดูหนาว ชาวบ้านจะเดินทางบนเส้นทางชาดาร์ เพื่อนำสินค้าทางการเกษตร เช่น ถั่ว ข้าวสาร และธัญพืช ที่เพาะปลูกได้ นำมาขายหรือนำมาแลกเปลี่ยนที่เมืองเลห์ โดยใช้ล้อเลื่อน และประสบการณ์ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ในการเดินบนธารน้ำแข็งของแม่น้ำซานสการ์ โดยหมู่บ้านสุดท้ายที่มีถนนเชื่อมต่อก่อนถึงเมืองเลห์ ก็คือ Tsomo โดยผลผลิตทางการเกษตรที่ได้ หลังจากขายให้กับทางพ่อค้าคนกลางที่เลห์ หรือนำมาฝากขายให้กับญาติพี่น้องเรียบร้อยแล้ว ชาวเมืองซานสการ์ ก็นำสินค้าที่ต้องการกลับไป เช่นเครื่องมือสำหรับทำเกษตรกรรม หรืออุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ หรือแม้แต่เครื่องยนต์ต่างๆ
ถ้าพร้อมหนาวแล้ว ไปดูตารางพร้อมกันครับ
แผนการเดินทาง
( 20 – 28 มกราคม 2024 ) ลางาน จันทร์ – ศุกร์ 5 วัน
Day 0 :- BKK – DELHI ไฟล์ทดึก( ศุกร์ ที่ 19 มกราคม 2024 )
เดินทางจากกรุงเทพไฟล์ทดึก ( อัพเดตตอนเดือนกันยายน 2563 ไฟล์ทยังไม่เยอะครับ เดี๋ยวมาแจ้งอีกที ) ไปยังเดลี เพื่อรอต่อเครื่องในประเทศ เดินทางไป เลห์ลาดักส์ครับ
Day 1:- Fly to Leh | Arrival ( เสาร์ ที่ 20 มกราคม 2024 ) ( – / – / D )
• ความสูง : Leh 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล
• ที่พัก : | มีฮีทเตอร์ |ห้องน้ำมีน้ำอุ่น |
ต่อเครื่องมายังเมือง เลห์ ลาดักส์ กรอกเอกสารอะไรเรียบร้อยแล้ว เข้าที่พัก ฟังอธิบายและกรอกเอกสารเพื่อใช้ในการขออนุญาต และใบเพอร์มิตต่างๆ ถ้าวันนี้ไฟล์ทไม่ดีเลห์ ช่วงบ่ายเราจะมีเวลาไปเดินเล่นรอบๆ จัตุรัส และ Mall Road เพื่อปรับสภาพร่างกายกันครับ และกลับมาพักผ่อนที่เกสต์เฮ้าส์กัน
Day 2:- Acclimatization Day ( อาทิตย์ ที่ 21 มกราคม 2024 ) ( B / – / D )
• ความสูง : Leh 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล
• ที่พัก : | มีฮีทเตอร์ |ห้องน้ำมีน้ำอุ่น |
วันนี้เป็นวันปรับสภาพร่างกาย ทางทีมงานก็จะพาไปยังสถานที่สำคัญๆ เช่นวัด Gompa และจุดชมวิวต่างๆ รอบตัวเมืองเลห์ ลาดักส์ ก็จะได้บรรยากาศเมืองในหน้าหนาวที่สวยไปอีกแบบนึง จะมาอัพเดตสถานที่อีกทีนึงนะครับ ก่อนกลับมาพักผ่อนที่เกสต์เฮ้าส์ครับผม
Day 3:- Medical Check up | Day of Wild Card Exits ( จันทร์ ที่ 22 มกราคม 2024 ) ( B / – / D )
• ความสูง : Leh 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล
• ที่พัก : | มีฮีทเตอร์ |ห้องน้ำมีน้ำอุ่น |
หลังจากทานข้าวเช้าเรียบร้อย เราจะเข้าไป Medical Check Up ตามกำหนดการของทางสภาเมือง เลห์ลาดักส์ ซึ่งการตรวจร่างกายไม่ได้มีความน่ากังวลมากครับ ร้อยทั้งร้อยผ่านหมดถ้าสองสามวันก่อนหน้านี้เราไม่ได้มีอาการแพ้ความสูงแบบรุนแรง
ก่อนช่วงบ่ายรับฟังบรรยายและการเตรียมตัว แพ๊คสัมภาระต่างๆ ให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เราพร้อมผจญภัยกันแล้วครับผม
Day 4:- Leh to Shingra Koma via Chilling & Tilad do and Trek to Gyalpo ( อังคาร ที่ 23 มกราคม 2024 ) ( B / L / D )
• ความสูง : Tsomo Paldar 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล
• ที่พัก : | เต็นท์ |นอน 2 คน |
• ระยะทาง : นั่งรถ 3-4 ชั่วโมง |Trekking 3 KM ประมาณ 2 ชั่วโมง
ช่วงเช้าเดินทางออกจากที่พัก สัมภาระอะไรที่ไม่ได้ใช้ ฝากไว้ที่พักได้ครับ นั่งรถเดินทางไปยังจุดเริ่มเดินอีกประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ลัดเลาะไปตามหุบเขาเลียบแม่น้ำซานสการ์ ไปสุดถนนเมื่อไหร่ กระโดดลงรถ หิ้วสัมภาระของตัวเอง เดินไปที่แคมป์วันแรก ไม่เกิน 1 ชั่วโมงครับ
พอถึงแคมป์แล้ว จับจองที่พัก นั่งคุย นั่งชิลล์ทานข้าวเที่ยงกัน ก่อนในช่วงบ่ายทางไกด์ของเราก็จะพาเราไปปรับสภาพและศึกษาวิธีการใช้อุปกรณ์ในการเดินทางต่างๆ การฝึกเดินบนธารน้ำแข็ง หรือบนแม่น้ำที่แข็งตัว จังหวะการเดินต่างๆ โดยมีจุดหมายปลายทางที่น้ำตกที่ไหลออกมาจากใต้พื้นดิน ที่เป็นแหล่งของน้ำร้อนใต้ดิน ใช้เวลาเดินไปกลับไม่เกิน สามชั่วโมง ก่อนกลับมาที่แคมป์ พักผ่อนตามอัธยาศัย ฟังอธิบายและบรีฟข้อมูลในวันต่อไป ทานข้าวเย็น ก่อนแยกย้ายกันเข้านอนครับ
Day 5:-Gyalpo to Tibb Cave ( พุธ ที่ 24 มกราคม 2024 ) )* ( B / L / D )
• ความสูง : Tibb Cave 3,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล
• ที่พัก : | เต็นท์ |นอน 2 คน |
• ระยะทาง : Trekking 14 KM ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
วันที่สองของการเทรคกิ้งในครั้งนี้
เราจะเดินลัดเลาะไปตามแม่น้ำซานสการ์ที่แข็งตัว ไปยัง Tibb Cave หรืออีกชื่อนึงคือถ้ำที่พักระหว่างทาง ใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 6-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาของน้ำแข็ง และสภาพอากาศในวันนั้นๆ เส้นทางเกือบ 70% จะอยู่บนแม่น้ำซานสการ์ มีบางช่วงที่จะต้องตัดขึ้นบนกองหินบ้าง แต่ไม่เยอะครับ
Day 6:- Tibb cave to Naerak camp ( พฤหัสบดี ที่ 25 มกราคม 2024 )* ( B / L / D )
• ความสูง : Naerak 3,450 เมตรจากระดับน้ำทะเล
• ที่พัก : | เต็นท์ |นอน 2 คน |
• ระยะทาง : Trekking 13 KM ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
ตื่นเช้ามา ล้างหน้าล้างตา แกะตัวเองออกจากถุงนอนให้ได้ แต่ไม่เป็นไร ร่างกายเราแข็งแรงอยู่ละครับ จัดแจงสัมภาระอะไรเรียบร้อยแล้ว เริ่มเดินไปยังแคมป์ Naerak ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินไม่เกิน 4 ชั่วโมงก็ถึงแคมป์ละครับ ก่อนจะโยนสัมภาระไว้ที่แคมป์ หอบไปเฉพาะของที่จำเป็น เพื่อไปชม Ice Waterfall ที่ Naerak Bridge ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ครับ วันนี้ถือว่าไม่หนักหนาจนเกินไป สบายๆ สำรับทุกคนครับ
Day 7:- Naerak to Tibb Cave ( ศุกร์ ที่ 26 มกราคม 2024 ) ( B / L / D )
• ความสูง : Tibb Cave 3,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล
• ที่พัก : | เต็นท์ |นอน 2 คน |
• ระยะทาง : Trekking 14 KM ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
จากแคมป์ Naerak เราจะเดินกลับมาที่แคมป์ Tibb Cave ซึ่งเราจะมี buffer อยู่ประมาณครึ่งวัน ถ้าสภาพอากาศเป็นใจ หรือรู้สึกหนาวไม่ไหวอยากกลับไปเลห์ ลาดักส์แล้ว เราก็สามารถบดกลับไปที่แคมป์ที่ใกล้กว่านี้ได้ แต่ตามกำหนดการเราจะไปนอนที่ Tibb Cave และรออัพเดตกันอีกทีนึงนะครับผม
Day 8:- Tibb Cave to Shingra Yokma via Gyalpo, Drive back to Leh ( เสาร์ ที่ 27 มกราคม 2024 ) ( B / – / D )
• ความสูง : Leh 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล
• ที่พัก : | มีฮีทเตอร์ |ห้องน้ำมีน้ำอุ่น |
• ระยะทาง : นั่งรถ 3-4 ชั่วโมง |Trekking 3 KM ประมาณ 2 ชั่วโมง
ตื่นเช้ามาวันนี้เตรียมตัวเดินทางกลับเลห์ ลาดักห์กันครับ นั่งรถกลับเข้าตัวเมือง สู่ความเจริญและศรีวิไลซ์ ไม่เกินเที่ยงวันเราก็จะได้อาบน้ำกันแล้วครับ ก่อนในช่วงบ่ายจะเป็นช่วง Free Day ให้เราได้จับจ่ายใช้สอยเงินตรากัน ซื้อของฝากกันให้หนำใจ ก่อนในช่วงเย็นกลับเข้าที่พักพร้อมรับประทานอาหารร่วมกัน จัดกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้นกันครับ
*Day 9:-Departure ( อาทิตย์ ที่ 28 มกราคม 2024 ) ( B / – / – )
เช็คเอ้าท์จากที่พักในช่วงเช้า ก่อนต่อเครื่องจากเลห์ ลาดักห์กลับเข้าเมืองเดลี และต่อไฟล์ทที่สะดวกที่สุด กลับมาตุภูมิประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรากันครับ
ค่าใช้จ่ายนี้รวม
รวม Inclusions :
• ที่พัก และเต็นท์ตามที่ระบุไว้ใน Itinerary ( Leh on Day 1, Day 2, Day 3 & Day 8 ) ( twin sharing basis )
• ( Tent Day 4 to Day 7 ) ( twin sharing basis )
• อาหารที่ระบุไว้ตามโปรแกรม
• ค่าเข้าสถานที่ และอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
• ไกด์นำทางและสต๊าฟระหว่างเทรค
• ทีมช่วยเหลือฉุกเฉิน
• ค่าเดินทางระหว่างทริป
• อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง และเต็นท์ ( ถุงนอน แผ่นรองนอน แคมป์กลาง โต๊ะ เก้าอี้ ห้องน้ำ สำหรับการเทรคกิ้งที่สูง )
● Sleeping Bags ( Multi-layered Sleeping bags capable of upto -25 Degree )
● Good Quality Sleeping Tent..
● Thick Camping Mattresses provide good insulation between your body & cold ground.
● Kitchen Tents with proper dining arrangements, so you can eat in peace.
● Toilet Tents pitched at the campsite.
• Wildlife permit fee / Medical check-up & Rescue/ ALTOA NOC Cost
• Sightseeing Tour ในวันที่ 2 ของโปรแกรม
ไม่รวม Exclusion :
• อาหารมื้ออิสระที่ระบุไว้ตามโปรแกรม
• ค่าวีซ่าอินเดีย ( ทำง่าย ฝากทำได้ครับ )
• อุปกรณ์ส่วนตัว
Personal trekking equipment – like Gum Boots, trekking poles or sleeping bag liners.
• ลูกหาบลากเลื่อนสัมภาระส่วนตัว ( 7 กิโลกรัม : 2500 บาท ตลอดทริป )
Shared Porters for luggage offloading (backpack or duffle bag only)
• ประกันอุบัติเหตุ และช่วยเหลือในที่สูง ตาม ALTOA ระบุไว้ ( ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ครับ )
• ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากโปรแกรม Anything not mentioned under ‘Inclusions’.
Short Briefting
( 20 – 28 มกราคม 2024 ) ลางาน จันทร์ – ศุกร์ 5 วัน
Day 0 :- BKK – DELHI ไฟล์ทดึก( ศุกร์ ที่ 19 มกราคม 2024 )
Day 1 :- Fly to Leh | Arrival ( เสาร์ ที่ 20 มกราคม 2024 )
Day 2 :- Acclimatization Day ( อาทิตย์ ที่ 21 มกราคม 2024 )
Day 3 :- Medical Check up | Day of Wild Card Exits ( จันทร์ ที่ 22 มกราคม 2024 )
Day 4 :- Leh to Shingra Koma via Chilling & Tilad do and Trek to Gyalpo ( อังคาร ที่ 23 มกราคม 2024 )
Day 5 :-Gyalpo to Tibb Cave ( พุธ ที่ 24 มกราคม 2024 )
Day 6 :- Tibb cave to Naerak camp ( พฤหัสบดี ที่ 25 มกราคม 2024 )*
Day 7 :- Naerak to Tibb Cave ( ศุกร์ ที่ 26 มกราคม 2024 )
Day 8 :- Tibb Cave to Shingra Yokma via Gyalpo, Drive back to Leh ( เสาร์ ที่ 27 มกราคม 2024 )
Day 9 :-Departure ( อาทิตย์ ที่ 28 มกราคม 2024 )
Ealry Bird
ยืนยันการเดินทางในปี 2023 ด้วยการมัดจำ 2,500 บาท รับฟรี ลูกหาบลากเลื่อนสัมภาระส่วนตัว ( มูลค่า 4,500 รูปี ) ไม่เกิน 7 กิโลกรัม ( ไม่รวมกับของกองกลาง ของเราเพียวๆ )
#เงื่อนไข early Bird หากยกเลิกการเดินทางไม่สามารถคืนเป็นเงินสด หรือเก็บเป็นมูลค่า หรือส่วนลดใดๆ ได้