รายละเอียด
มุลาอิ ขุนเขาแห่งศรัทธา
1 ใน 4 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ( โมโกตู หรือ มะม่วงสามหมื่น, ดอยพะวี, เมะลาอะ และ มุลาอิ ) ของชาวกะเหรี่ยงพุทธ ( DKBA ) ในจังหวัดเมียวดี สหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากชายแดนไทย ฝั่ง อ.พบพระ จ.ตาก ประมาณ 40 กิโลเมตร
“มุลาอิ” เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขา Dawna Hills อันประกอบด้วยยอดเขาสูงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของนักเดินป่าไทย ได้แก่ มุลาอิ เมะลาอะ ดอยพะวี และดอยมะม่วงสามหมื่น ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงแล้ว บนยอดเขามุลาอิเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
บางคนกังวลว่าจะหนัก หรือเหนื่อยเกินไปไหมสำหรับการไปเที่ยว แต่ที่จริงแล้ว จุดจอดรถก็แทบจะถึงตัวพระธาตุรองและพระธาตุสูงสุดอยู่แล้ว ตามรีวิวที่จะมีเดินประมาณ 2-3 กิโลเมตร ก็คือการเดินไปจุดกางเต็นท์ เพราะตามกฎของชาวกะเหรี่ยงและผู้ดูแล ไม่อนุญาตให้กางเต็นท์ค้างแรม หรือประกอบอาหารด้านบนเจดีย์ แต่ถ้าเลยไปเกินเจดีย์บริวารก็ถือว่านอกเขตศักดิ์สิทธิ์ของเค้าแล้ว เราเลยไปกางเต็นท์กันตรงนั้น แต่ปัจจุบัน ผู้ดูแลพระธาตุ ได้ออกกฏระเบียบอันใหม่ให้เราต้องประกอบอาหารและรับประทานเฉพาะบริเวณโรงทาน หรือโรงเจเท่านั้น เรามาดูกันดีกว่าว่าต้องเตรียมตัวกันยังไงบ้าง
1.ชุดที่จะเตรียมไป ระหว่างเดินทางด้วยรถ แนะนำให้เป็นชุดแขนยาว ขายาว รวมถึงหมวกและผ้าบัฟ เพื่อป้องกันฝุ่นละเอียด และแดดที่ค่อนข้างร้อนระหว่างทาง ( เรานั่งรถไปประมาณ 4-5 ชั่วโมงนะครับ ) และเสื้อกันหนาวในยามค่ำคืน ที่อาการค่อนข้างจะหนาว รองเท้าจะเป็นรองเท้าแตะ หรือรองเท้าผ้าใบก็ได้แล้วแต่สะดวกนะครับ
2.บนพระธาตุมุลาอิไม่มีจุดให้อาบน้ำ แต่ระหว่างทางจะมีจุดแวะพัก ให้เราได้ล้างเนื้อล้างตัว ทำความสะอาด ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงพุทธ เสมือนเป็นการทำจิตใจและร่างกาย ให้สะอาดก่อนขึ้นไปสักการะพระธาตุด้านบน (แต่นั่งรถไปก็ฝุ่นเหมือนเดิม) เพราะฉะนั้นเครื่องอาบน้ำเซ็ทใหญ่ผมแนะนำให้เก็บไว้ที่รถตู้ก็ได้ครับ เสร็จทุกย่าง อาบฝุ่นเรียบร้อยเราค่อยอาบน้ำที่จุดบริการนักท่องเที่ยวด้านล่างครับ (เสื้อขากลับวางไว้ที่รถเลย)
3.ปฏิบัติตามกฎของพระธาตุอย่างเคร่งครัดนะครับ ที่นั่นถูกสร้างด้วนความศรัทธา เราเป็นเพียงผู้ที่มาท่องเที่ยวและชื่นชมความงดงาม อยากให้มันคงอยู่ตลอดไปครับ
4.ผู้หญิง และ ผู้ชายไม่อนุญาตให้นอนเต็นท์เดียวกันนะครับ ใครเตรียมเต็นท์ไปเอง อย่าลืมข้อนี้ด้วยนะครับ
5.ตอนจะขึ้นไปสักการะองค์พระธาตุเจดีย์มุลาอิ ผู้หญิงอย่าลืมนำผ้าถุงหรือผ้าซิ่นติดตัวไปเปลี่ยนบริเวณจุดเดินขึ้นองค์พระธาตุด้วยนะ หากเป็นประจำเดือนห้ามเดินขึ้นไปนะ ทำได้แค่เพียงนั่งเล่นชมวิวอยู่ที่จุดกางเต็นท์จ้า ส่วนผู้ชายควรใส่กางเกงขายาวเลยเข่าลงมาให้สุภาพ
6.ยอดเขามุลาอิ จะมีพระเจดีย์ให้เราสักการะ 2 องค์ โดยผู้หญิงสามารถขึ้นมาสักการะได้แค่พระเจดีย์องค์แรก คือองค์ในรูปนี้ ซึ่งประดิษฐานอยู่ก่อนถึงยอดสูงสุดในระดับต่ำลงมาประมาณ 30-40 เมตร จากระดับน้ำทะเล ส่วนผู้ชายสามารถเดินเลยขึ้นไปสักการะได้ถึงองค์พระธาตุเจดีย์มุลาอิ ซึ่งอยู่บนยอดสูงสุด 2,070 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ถ้าพร้อมเดินทางแล้ว เราไปดูโปรแกรมกันครับ
———————— ———————
️ : 13-14 ธันวาคม 2568
️ : 17-18 มกราคม 2569
️ : 24-25 มกราคม 2569
———————— ———————
Active Program
** (B – Breakfast, L – Lunch, D – Dinner)**
(B – Breakfast, L – Lunch, D – Dinner)
Active Program
.
วันศุกร์ ที่ 24 มกราคม 2568
20.00 น. รวมพลกันที่Season mall // ตรงข้ามปตท.สนามเป้า เมื่อสมาชิกพร้อมขึ้นรถตู้เดินทางไปยัง อ.พบพระ จ.ตาก
วันเสาร์ 25 มกราคม 2568 ( B / L / D )
– 06.00 น. เราจะเช้ากันที่อ.พบพระ รับมื้อเช้า ล้างหน้าตาเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมประทะฝุ่น ( มื้อที่ 1 ) และน้ำดื่มสำหรับระหว่างการเดินทาง ให้เรียบร้อย เราจะต่อรถกระบะข้ามแดนไปฝั่งพม่ากันครับ นั่งรถกระบะไปที่ พระธาตุมูลาอิ ประมาณ 3-4 ชั่วโมงครับ
โดยปกติเราจะถึงจุดลงรถใกล้ๆ เที่ยงวัน เราจะไปกินที่วัดเลยครับ ( มื้อเที่ยงจะเป็นอาหารเจแล้วนะ )
ขนของสัมภาระของตัวเองลงรถ แล้วเดินไปจุดกางเต๊นท์ เดินประมาณ 1-2 กิโลเมตร หลังกางเต๊นท์เสร็จ ค่อยพากันขึ้นไปไหว้พระธาตุ เดินชมวิวรอบๆ พระธาตุ ก่อนที่จะกลับมาลานกางเต๊นท์ เพื่อรอชมวิวพระอาทิตย์ตกที่แคมป์ ที่นี่ลานกางเต็นท์วิวค่อนข้างสวยเลย เป็นเอกลักษณ์ กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจมากๆ ครับ
หลังอาทิตย์ตกก็พากันเข้าไปกินมื้อค่ำอย่างเรียบง่าย ( มื้อที่ 3 ) ที่โรงเจ หลังจากข้าวเรียงเม็ดลงท้องแล้ว เริ่มสวดมนต์ เป็นเด็กดีเข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม
วันอาทิตย์ 26 มกราคม 2568 ( B / – / – )
เช้าตื่นมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าเต๊นท์ ส่วนใครที่ไม่ดูก็นอนยาว ๆ ได้เลยครับ
พอแสงเริ่มแยงตาเก็บแคมป์และสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อยทุกคน เริ่มเดินกลับมาที่โรงทาน ก่อนจะมาล้อมวงกินมื้อเช้า ( มื้อที่ 4 ) อย่างเรียบง่าย เสร็จเรียบร้อยเติมพลังจนอิ่มหนำสำราญ ขึ้นรถกระบะกลับมาฝั่งไทย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และกินมื้อเที่ยงฝั่งไทย มื้อนี้ขอเนื้อเน้นๆ
หลังจากขนของจัดสัมภาระ ขึ้นรถตู้เรียบร้อยแล้ว เราออกเดินทางกลับกรุงเทพกันครับ แวะทานข้าวเย็นระหว่างทาง ถึงจุดหมายปลายทาง กรุงเทพมหานคร ประมาณเที่ยงคืน
———————— ———————
: ค่าใช้จ่าย 3,450 บาท / ท่าน
ค่าใช้จ่ายนี้รวม
✅ค่ารถตู้เดินทางไปกลับ กรุงเทพ – พบพระ
✅ค่ารถกระบะข้ามแดน
✅ค่าบำรุงสถานที่
✅ลูกหาบของกองกลาง
✅ประกันตลอดการเดินทาง
✅อาหาร 4 มื้อ
✅น้ำขวดดื่มก่อนเดิน คนละ 2ลิตร
✅น้ำดื่ม (กรอง) ระหว่างอยู่แคมป์
อุปกรณ์แคมป์ปิ้งสำหรับยืมใช้งานในกรณีที่ไม่มีส่วนตัว
ถุงนอนฟรี ไม่คิดค่าบริการ ( แจ้งยืมด้วยนะครับ )
เต๊นท์หลังละ 200-300 บาทตลอดทริปขึ้นอยู่กับขนาดครับ
———————— ———————
เงื่อนไขการจองทริปและการยกเลิกทริป
- จองทริปโดยการโอนมัดจำ ท่านละ 2,000 บาท
2.ชำระส่วนที่เหลือ 15 วัน ก่อนวันเดินทาง และไม่สามารถเรียกคืนได้ทุกกรณี
- หากยกเลิกก่อนวันเดินทางน้อยกว่า 30 วัน ถือว่าสละสิทธิ์ และไม่สามารถเรียกเงินมัดจำคืนได้ทุกกรณี
- ออกเดินทางเมื่อ สมาชิกในรถตู้ มีจำนวน 8คนขึ้นไป ถ้าไม่ถึง 8คน ทีมงานขออนุญาต ยกเลิกทริปและจะโอนเงินคืนสมาชิกทุกคนครับ
ชำระเงินโดยโอนเข้าบัญชี :
♂ นายธีรภัทร์ สุทธินันท์
ธนาคารกรุงเทพ 157-4-96795-4
ธนาคารไทยพาณิชย์ 406-074108-0
ธนาคารกสิกรไทย 059-8-345740
PROMTPAY 094-5248118
ส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่
Line ID : @comeonthailand
INBOX : https://www.facebook.com/LifeisJourneybyNonny/messages
*** กรุณาเก็บสลิปโอนเงินไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยัน ***
———————— ———————
☎️สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 094-5248118 นนท์ / 088-5333341 พี่โอ๊ต / 088-7921067 ปัน
Line ID : @comeonthailand
inbox : https://www.facebook.com/LifeisJourneybyNonny/messages