มุลาอิ ขุนเขาแห่งศรัทธา

3,450.00฿

รายละเอียด

มุลาอิ ขุนเขาแห่งศรัทธา

 

1 ใน 4 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ( โมโกตู หรือ มะม่วงสามหมื่น, ดอยพะวี, เมะลาอะ และ มุลาอิ ) ของชาวกะเหรี่ยงพุทธ ( DKBA ) ในจังหวัดเมียวดี สหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากชายแดนไทย ฝั่ง อ.พบพระ จ.ตาก ประมาณ 40 กิโลเมตร

“มุลาอิ” เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขา Dawna Hills อันประกอบด้วยยอดเขาสูงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของนักเดินป่าไทย ได้แก่ มุลาอิ เมะลาอะ ดอยพะวี และดอยมะม่วงสามหมื่น ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงแล้ว บนยอดเขามุลาอิเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า

บางคนกังวลว่าจะหนัก หรือเหนื่อยเกินไปไหมสำหรับการไปเที่ยว แต่ที่จริงแล้ว จุดจอดรถก็แทบจะถึงตัวพระธาตุรองและพระธาตุสูงสุดอยู่แล้ว ตามรีวิวที่จะมีเดินประมาณ 2-3 กิโลเมตร ก็คือการเดินไปจุดกางเต็นท์ เพราะตามกฎของชาวกะเหรี่ยงและผู้ดูแล ไม่อนุญาตให้กางเต็นท์ค้างแรม หรือประกอบอาหารด้านบนเจดีย์ แต่ถ้าเลยไปเกินเจดีย์บริวารก็ถือว่านอกเขตศักดิ์สิทธิ์ของเค้าแล้ว เราเลยไปกางเต็นท์กันตรงนั้น แต่ปัจจุบัน ผู้ดูแลพระธาตุ ได้ออกกฏระเบียบอันใหม่ให้เราต้องประกอบอาหารและรับประทานเฉพาะบริเวณโรงทาน หรือโรงเจเท่านั้น เรามาดูกันดีกว่าว่าต้องเตรียมตัวกันยังไงบ้าง

 

1.ชุดที่จะเตรียมไป ระหว่างเดินทางด้วยรถ แนะนำให้เป็นชุดแขนยาว ขายาว รวมถึงหมวกและผ้าบัฟ เพื่อป้องกันฝุ่นละเอียด และแดดที่ค่อนข้างร้อนระหว่างทาง ( เรานั่งรถไปประมาณ 4-5 ชั่วโมงนะครับ ) และเสื้อกันหนาวในยามค่ำคืน ที่อาการค่อนข้างจะหนาว รองเท้าจะเป็นรองเท้าแตะ หรือรองเท้าผ้าใบก็ได้แล้วแต่สะดวกนะครับ

2.บนพระธาตุมุลาอิไม่มีจุดให้อาบน้ำ แต่ระหว่างทางจะมีจุดแวะพัก ให้เราได้ล้างเนื้อล้างตัว ทำความสะอาด ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงพุทธ เสมือนเป็นการทำจิตใจและร่างกาย ให้สะอาดก่อนขึ้นไปสักการะพระธาตุด้านบน (แต่นั่งรถไปก็ฝุ่นเหมือนเดิม) เพราะฉะนั้นเครื่องอาบน้ำเซ็ทใหญ่ผมแนะนำให้เก็บไว้ที่รถตู้ก็ได้ครับ เสร็จทุกย่าง อาบฝุ่นเรียบร้อยเราค่อยอาบน้ำที่จุดบริการนักท่องเที่ยวด้านล่างครับ (เสื้อขากลับวางไว้ที่รถเลย)

3.ปฏิบัติตามกฎของพระธาตุอย่างเคร่งครัดนะครับ ที่นั่นถูกสร้างด้วนความศรัทธา เราเป็นเพียงผู้ที่มาท่องเที่ยวและชื่นชมความงดงาม อยากให้มันคงอยู่ตลอดไปครับ

4.ผู้หญิง และ ผู้ชายไม่อนุญาตให้นอนเต็นท์เดียวกันนะครับ ใครเตรียมเต็นท์ไปเอง อย่าลืมข้อนี้ด้วยนะครับ 

5.ตอนจะขึ้นไปสักการะองค์พระธาตุเจดีย์มุลาอิ ผู้หญิงอย่าลืมนำผ้าถุงหรือผ้าซิ่นติดตัวไปเปลี่ยนบริเวณจุดเดินขึ้นองค์พระธาตุด้วยนะ หากเป็นประจำเดือนห้ามเดินขึ้นไปนะ ทำได้แค่เพียงนั่งเล่นชมวิวอยู่ที่จุดกางเต็นท์จ้า ส่วนผู้ชายควรใส่กางเกงขายาวเลยเข่าลงมาให้สุภาพ

6.ยอดเขามุลาอิ จะมีพระเจดีย์ให้เราสักการะ 2 องค์ โดยผู้หญิงสามารถขึ้นมาสักการะได้แค่พระเจดีย์องค์แรก คือองค์ในรูปนี้ ซึ่งประดิษฐานอยู่ก่อนถึงยอดสูงสุดในระดับต่ำลงมาประมาณ 30-40 เมตร จากระดับน้ำทะเล ส่วนผู้ชายสามารถเดินเลยขึ้นไปสักการะได้ถึงองค์พระธาตุเจดีย์มุลาอิ ซึ่งอยู่บนยอดสูงสุด 2,070 เมตร จากระดับน้ำทะเล

ถ้าพร้อมเดินทางแล้ว เราไปดูโปรแกรมกันครับ

———————— ———————

– รอบการเดินทาง –
️ : 15-16 พฤศจิกายน 2568
️ : 29-30 พฤศจิกายน 2568
️ : 13-14 ธันวาคม 2568
️ : 17-18 มกราคม 2569
️ : 24-25 มกราคม 2569

———————— ———————

Active Program

** (B – Breakfast, L – Lunch, D – Dinner)**

 

(B – Breakfast, L – Lunch, D – Dinner)

Active Program

.

 

วันศุกร์ ที่ 24 มกราคม 2568

20.00 น. รวมพลกันที่Season mall // ตรงข้ามปตท.สนามเป้า เมื่อสมาชิกพร้อมขึ้นรถตู้เดินทางไปยัง อ.พบพระ จ.ตาก

 

วันเสาร์ 25 มกราคม 2568 ( B / L / D )

– 06.00 น. เราจะเช้ากันที่อ.พบพระ รับมื้อเช้า ล้างหน้าตาเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมประทะฝุ่น ( มื้อที่ 1 ) และน้ำดื่มสำหรับระหว่างการเดินทาง ให้เรียบร้อย เราจะต่อรถกระบะข้ามแดนไปฝั่งพม่ากันครับ นั่งรถกระบะไปที่ พระธาตุมูลาอิ ประมาณ 3-4 ชั่วโมงครับ

โดยปกติเราจะถึงจุดลงรถใกล้ๆ เที่ยงวัน เราจะไปกินที่วัดเลยครับ ( มื้อเที่ยงจะเป็นอาหารเจแล้วนะ )

ขนของสัมภาระของตัวเองลงรถ แล้วเดินไปจุดกางเต๊นท์ เดินประมาณ 1-2 กิโลเมตร หลังกางเต๊นท์เสร็จ ค่อยพากันขึ้นไปไหว้พระธาตุ เดินชมวิวรอบๆ พระธาตุ ก่อนที่จะกลับมาลานกางเต๊นท์ เพื่อรอชมวิวพระอาทิตย์ตกที่แคมป์ ที่นี่ลานกางเต็นท์วิวค่อนข้างสวยเลย เป็นเอกลักษณ์ กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจมากๆ ครับ

หลังอาทิตย์ตกก็พากันเข้าไปกินมื้อค่ำอย่างเรียบง่าย ( มื้อที่ 3 ) ที่โรงเจ หลังจากข้าวเรียงเม็ดลงท้องแล้ว เริ่มสวดมนต์ เป็นเด็กดีเข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม

 

วันอาทิตย์ 26 มกราคม 2568 ( B / – / – )

เช้าตื่นมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าเต๊นท์ ส่วนใครที่ไม่ดูก็นอนยาว ๆ ได้เลยครับ

พอแสงเริ่มแยงตาเก็บแคมป์และสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อยทุกคน เริ่มเดินกลับมาที่โรงทาน ก่อนจะมาล้อมวงกินมื้อเช้า ( มื้อที่ 4 ) อย่างเรียบง่าย เสร็จเรียบร้อยเติมพลังจนอิ่มหนำสำราญ ขึ้นรถกระบะกลับมาฝั่งไทย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และกินมื้อเที่ยงฝั่งไทย มื้อนี้ขอเนื้อเน้นๆ

หลังจากขนของจัดสัมภาระ ขึ้นรถตู้เรียบร้อยแล้ว เราออกเดินทางกลับกรุงเทพกันครับ แวะทานข้าวเย็นระหว่างทาง ถึงจุดหมายปลายทาง กรุงเทพมหานคร ประมาณเที่ยงคืน

 

———————— ———————

: ค่าใช้จ่าย 3,450 บาท / ท่าน

 

ค่าใช้จ่ายนี้รวม

✅ค่ารถตู้เดินทางไปกลับ กรุงเทพ – พบพระ

✅ค่ารถกระบะข้ามแดน

✅ค่าบำรุงสถานที่

✅ลูกหาบของกองกลาง

✅ประกันตลอดการเดินทาง

✅อาหาร 4 มื้อ

✅น้ำขวดดื่มก่อนเดิน คนละ 2ลิตร

✅น้ำดื่ม (กรอง) ระหว่างอยู่แคมป์

 

อุปกรณ์แคมป์ปิ้งสำหรับยืมใช้งานในกรณีที่ไม่มีส่วนตัว

ถุงนอนฟรี ไม่คิดค่าบริการ ( แจ้งยืมด้วยนะครับ )

เต๊นท์หลังละ 200-300 บาทตลอดทริปขึ้นอยู่กับขนาดครับ

———————— ———————

 

เงื่อนไขการจองทริปและการยกเลิกทริป

  1. จองทริปโดยการโอนมัดจำ ท่านละ 2,000 บาท

2.ชำระส่วนที่เหลือ 15 วัน ก่อนวันเดินทาง และไม่สามารถเรียกคืนได้ทุกกรณี

  1. หากยกเลิกก่อนวันเดินทางน้อยกว่า 30 วัน ถือว่าสละสิทธิ์ และไม่สามารถเรียกเงินมัดจำคืนได้ทุกกรณี
  2. ออกเดินทางเมื่อ สมาชิกในรถตู้ มีจำนวน 8คนขึ้นไป ถ้าไม่ถึง 8คน ทีมงานขออนุญาต ยกเลิกทริปและจะโอนเงินคืนสมาชิกทุกคนครับ

 

ชำระเงินโดยโอนเข้าบัญชี :

‍♂ นายธีรภัทร์ สุทธินันท์

ธนาคารกรุงเทพ 157-4-96795-4

ธนาคารไทยพาณิชย์ 406-074108-0

ธนาคารกสิกรไทย 059-8-345740

PROMTPAY 094-5248118

 

ส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่

Line ID : @comeonthailand

INBOX : https://www.facebook.com/LifeisJourneybyNonny/messages

*** กรุณาเก็บสลิปโอนเงินไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยัน ***

 

———————— ———————

 

☎️สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

โทร : 094-5248118 นนท์ / 088-5333341 พี่โอ๊ต / 088-7921067 ปัน

Line ID : @comeonthailand

inbox : https://www.facebook.com/LifeisJourneybyNonny/messages

 

 

 

 


 

 

error: Content is protected !!