Active Program

** (B – Breakfast, L – Lunch, D – Dinner)**

 

DAY 0

19.30 น. รวมพลกันที่ Season mall // ตรงข้าม ปตท.สนามเป้า

20.00 น. พร้อมแล้วออกเดินทางกันครับ ปลายทางเชียงใหม่

 

DAY 1 ( – / – / D )

ตื่นนอน ล้างหน้าล้างตาที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนจะออกไปหาอาหารเช้าง่ายๆ ที่ตลาดเช้า บรรยากาศของตลาดท้องถิ่นเต็มไปด้วยของกินพื้นบ้าน กลิ่นข้าวเหนียวร้อนๆ กับไก่ย่างหอมๆ ลอยมาแตะจมูก เป็นมื้อเช้าสไตล์เดินทางที่เรียบง่ายแต่เติมพลังได้เต็มที่

จุดหมายแรกของวันนี้คือ “น้ำตกแม่ยะ” หนึ่งในน้ำตกที่สวยและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เดินเท้าเข้าไปประมาณ 500 เมตร เส้นทางไม่ยากมาก แต่พอไปถึงแล้วต้องตะลึงกับม่านน้ำตกที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ คล้ายม่านสีขาวท่ามกลางป่าครึ้ม เสียงน้ำกระทบหินดังไปทั่ว ละอองน้ำเย็นๆ กระเซ็นมาปะทะผิวให้ความสดชื่นสุดๆ

ช่วงสายๆ ต่อกันที่ “น้ำตกรักจัง” จุดพักผ่อนอีกแห่งใกล้บ้านแม่กลางหลวง น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้เขียวชอุ่ม บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการแวะถ่ายรูป เก็บภาพบรรยากาศของธรรมชาติแถบนี้ และตั้งแต่จุดนี้เป็นต้นไป เราจะเริ่มเห็นวิว นาขั้นบันได เรียงตัวสวยงามไปตามเนินเขา เป็นสัญญาณว่ากำลังเข้าสู่โซนไฮไลต์ของทริปแล้ว

แวะทานข้าวเที่ยงข้างทาง มื้อกลางวันง่ายๆ ระหว่างทาง แต่รสชาติดีงามแน่นอน กินอิ่มแล้วกระโดดขึ้นรถตู้อีกที มุ่งหน้าสู่ “โฮมสเตย์ป่าบงเปียง” ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง

ไม่เกินบ่ายสาม ก็ถึงแล้วครับ ป่าบงเปียง นาขั้นบันไดสุดอลังการ
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่นาข้าวเขียวขจีที่สุดของปี มองไปทางไหนก็เจอแต่สีเขียวสดใสตัดกับท้องฟ้าและแนวเขาสลับซับซ้อน เป็นภาพที่เห็นแล้วต้องตะลึง! ใครที่ชอบถ่ายรูป บอกเลยว่าตรงนี้คือ “สวรรค์ของช่างภาพ” เพราะไม่ว่าจะมุมไหนก็สวยไปหมด

เข้าที่พัก เก็บของ เปลี่ยนชุด แล้วออกมาถ่ายรูปกันให้เต็มที่! ใครเหนื่อยก็สามารถนอนเล่นที่บ้านโฮมสเตย์ รับลมเย็นๆ สัมผัสชีวิตสโลว์ไลฟ์ ฟังเสียงนก เสียงลมพัดผ่านผืนนาแบบไม่มีอะไรมารบกวน

ค่ำนี้มื้อเย็นเป็นมื้อพิเศษ ล้อมวงกินข้าวพร้อมกันกับเมนูพื้นบ้านจากชาวปะกาเกอญอ บรรยากาศเงียบสงบ มีเพียงแสงตะเกียงสลัวๆ กับเสียงลมพัดผ่าน หลังจากอิ่มแล้ว ใครที่ต้องการเสริมสิริมงคลสามารถร่วม ทำวัดเย็น เพื่อเป็นสิ่งดีๆ ส่งท้ายวัน

สองทุ่ม เข้านอนแต่หัวค่ำ ปล่อยให้ธรรมชาติกล่อมเราเข้านอน คืนนี้บนฟ้ามีดาวระยิบระยับ ส่วนนาข้างล่างก็เขียวขจีไปสุดสายตา เป็นค่ำคืนที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความสุข แต่คิดว่าสลบกันทุกคนแน่นอน

 

DAY 2 ( B / – / – )

เช้าวันใหม่ที่ป่าบงเปียง
ตื่นเช้ามาพร้อมอากาศเย็นสดชื่น แสงอาทิตย์เริ่มส่องกระทบกับผืนนาขั้นบันได ท่ามกลางสายหมอกขาวนวลที่ลอยตัวเหนือผืนนาอย่างนุ่มนวล ทะเลหมอกอลังการแบบที่หาชมไม่ได้ง่ายๆ ( ติดต่อทะเลหมอกไว้ล่วงหน้าแล้วครับ ) ใครชอบถ่ายรูปบอกเลยว่าต้องตื่นมาเก็บภาพโมเมนต์นี้ให้เต็มที่ เพราะเป็นช่วงเวลาที่นาข้าวกำลังเขียวขจีที่สุด และแสงเช้าที่ตกกระทบยอดข้าวก็เป็นอะไรที่สวยเกินบรรยาย

อิ่มอร่อยกับมื้อเช้าแบบบ้านๆ
หลังจากดื่มด่ำกับทะเลหมอกจนเต็มอิ่ม เรากลับมาทานข้าวเช้าที่โฮมสเตย์ อาหารพื้นบ้านเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรสชาติและความอบอุ่นของเจ้าบ้าน เติมพลังให้พร้อมสำหรับการเดินทางต่อ

10 โมงเช้า – อำลาป่าบงเปียง เดินทางสู่จุดหมายต่อไป
เส้นทางลงจากป่าบงเปียงยังคงเต็มไปด้วยวิวสวยๆ ของภูเขาและทุ่งนา ระหว่างทางเราจะค่อยๆ เปลี่ยนบรรยากาศจากขุนเขาสู่เส้นทางธรรมชาติอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

แวะแช่น้ำร้อนที่ “น้ำพุร้อนเทพพนม”
เดินทางกันมาเหนื่อยๆ ถึงเวลาผ่อนคลายกับบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ น้ำอุ่นๆ ที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และเติมพลังให้ร่างกายได้รีเฟรชกันก่อนเดินทางต่อ

ถ้ามีเวลาเหลือ แวะทานข้าวเที่ยงที่ “อุทยานแห่งชาติออบหลวง”
ออบหลวงเป็นอุทยานแห่งชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางเดินป่าระยะสั้นและวิวแม่น้ำที่ตัดผ่านหน้าผาหิน อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ถ้ามีเวลา เราสามารถหาอาหารกลางวันกินง่ายๆ ที่นี่ พร้อมชมวิวของออบหลวงไปด้วย

“ผาสิงห์เหลียว” จุดชมวิวสุดอันซีน  ( optional )
เดินทางต่อไปยังจุดชมวิว ผาสิงห์เหลียว ที่ขึ้นชื่อเรื่องความท้าทายและวิวพาโนรามาสุดอลังการ หน้าผาที่สูงชันแห่งนี้เป็นที่มาของตำนานเกี่ยวกับสิงห์ที่เหลียวมองทิวทัศน์ และนักเดินทางที่ขึ้นไปถึงจุดนี้จะได้สัมผัสกับลมเย็นๆ และวิวของขุนเขาที่ทอดยาวสุดสายตา

ปิดท้ายทริปที่ “ทุ่งนาอำเภอลี้”  ( optional )
ก่อนจะโบกมือลาเชียงใหม่ เราแวะที่ ทุ่งนาอำเภอลี้ อีกหนึ่งมุมเงียบสงบที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวนาแบบดั้งเดิม เส้นทางระหว่างเดินทางจะมีวิวของทุ่งนาเขียวๆ แซมด้วยกระท่อมเล็กๆ กลางทุ่ง ถ่ายรูปสวยและยังได้ซึมซับบรรยากาศแห่งชนบทก่อนเดินทางกลับ

 

DAY 3

คาดว่าจะถึงกทม. ประมาณตีสองครับผม

หมายเหตุ: โปรแกรมทริปอาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัย สภาพอากาศ ความปลอดภัย การจราจร โดยผู้นำทริปจะถือประโยชน์ของสมาชิกเป็นสำคัญ

 

———————— ———————

 

: ค่าใช้จ่าย 3,650 บาท /ท่าน

ค่าใช้จ่ายนี้รวม

– ค่ารถตู้เดินทางจากกทม.

– ค่าที่พักโฮมสเตย์ป่าบงเปียง

– ค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่

– ประกันการเดินทาง

– มื้ออาหารที่ระบุไว้ในโปรแกรม

– ทีมงานสตาฟดูแลตลอดทริป

– น้ำดื่มบนรถและระหว่างเดินทาง

 

เงื่อนไขการจองทริปและการยกเลิกทริป

1. จองทริปโดยการโอนมัดจำ ท่านละ 2,000 บาท
2. ชำระส่วนที่เหลือ 15 วัน ก่อนวันเดินทาง และไม่สามารถเรียกคืนได้ทุกกรณี
3. หากยกเลิกก่อนวันเดินทางน้อยกว่า 30 วัน ถือว่าสละสิทธิ์ และไม่สามารถเรียกเงินมัดจำคืนได้ทุกกรณี
4. ออกเดินทางเมื่อ สมาชิกในรถตู้ มีจำนวน 8 คนขึ้นไป
5. ในกรณีที่สมาชิกไม่ถึง 8 คน น้อยกว่า 10 วัน ก่อนเดินทาง 1สัปดาห์ทีมงานขออนุญาต ยกเลิกทริปและจะโอนเงินคืนสมาชิกทุกคนครับ

 

ชำระเงินโดยโอนเข้าบัญชี :

‍♂ นายธีรภัทร์ สุทธินันท์

ธนาคารกรุงเทพ 157-4-96795-4

ธนาคารไทยพาณิชย์ 406-074108-0

ธนาคารกสิกรไทย 059-8-345740

PROMTPAY 094-5248118

 

ส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่

Line ID : @comeonthailand

INBOX : https://www.facebook.com/LifeisJourneybyNonny/messages

*** กรุณาเก็บสลิปโอนเงินไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยัน ***

 

———————— ———————

 

☎️สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

โทร : 094-5248118 นนท์ / 088-5333341 พี่โอ๊ต / 088-7921067 ปัน

Line ID : @comeonthailand

inbox : https://www.facebook.com/LifeisJourneybyNonny/messages