รายละเอียด
MT. KERINCI 3,805 Msl. : Highest Volcano in South East Asia
เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในอินโดนีเซีย ที่ความสูง 3805 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอินโดนีเซียถ้าไม่นับ Puncak Jaya ที่เป็นรอยเชื่อมต่อของแผ่นเปลือกโลก Oceania เพราะว่าถ้าจะถกกันประเด็นนี้ ปาปัวนิวกีนีก็อยากจะเคลมเหมือนกันว่ายอดนั้นอยู่ในเกาะของปาปัวโดยตรงนั่นเอง ( มันอ่อนไหวเนาะ เดี๋ยวเราค่อยว่ากันอีกที )
สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือปาดัง ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 6-8 ชั่วโมงไปยังที่พักที่ใกล้ที่สุดไปยังเส้นทาง Kerinci
หลายๆ คนคงทราบแล้วว่า 7 Summits ในโลกใบนี้จะนับตามภูเขาที่สูงที่สุดของแผ่นเปลือกโลกในทวีปนั้นๆ ซึ่งเครินซีก็ไม่ได้ติดอันดับความสูงนั่นเลยครับ เรียกได้ว่าไม่ใกล้เคียง แต่ถ้าเราแยกย่อยลงมา นับภูเขาที่ลักษณะเฉพาะเจาะจงคือ “ภูเขาไฟ” แล้วละก็ เครินซีจะติดอยู่ในภูเขาไฟที่สูงที่สุดในอาเซียนเลยครับ
ด้วยระยะเวลาในการซัมมิท 2 วัน 1 คืน และเส้นทางเดินที่ไม่ยาก เพราะต้องปีนด้วย ถ้านับปีนด้วยจะถือว่า สมบุกสมบัน แต่เป็นไปได้ ทำให้ภูเขาเครินซีนั้นเป็นที่หมายปองของนักเดินทางที่ชื่นชอบภูเขาไฟ และเสาะแสวงหาที่สุดในภูมิภาคตัวเอง
ถึงแม้จะไม่ดังในระดับโลกหรือขึ้นชื่อลือชาและรู้จักกันมากนัก คนไทยหลายคนก็เคยมาที่นี่ละครับ คัมอรจะพลาดได้ยังไง และนั่นก็เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ที่นี่ น่าสนใจ น่าค้นหา และถ้ามีโอกาส ควรมาสัมผัสกับที่นี่สักครั้งหนึ่ง
และคุณจะจำที่นี่ไม่ลืมเลือนเหมือนผมแน่นอน
31 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน2568
———————— ———————
กำหนดการ Active program
(B – Breakfast, L – Lunch, D – Dinner)
Active Program
Travel
Day 0 : DMK – KUL ( overnight at airport ) ( – / – / – )
เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปกัวลาลัมเปอร์ด้วยไฟล์ทที่สะดวกที่สุด แต่ถ้าจะแนะนำเป็นไฟล์ทดึกสุดของแอร์เอเชีย เพื่อที่จะทันไฟล์ทเช้าของวันถัดไปเพื่อเดินทางไปเมืองปาดัง ประเทศอินโดนีเซีย
หรือถ้าใครจะเดินทางมาก่อน ไม่มีปัญหาครับ นัดเจอกันที่สนามบินในไฟล์ทปาดังได้เลยครับ
Day 1: KUL – PADANG – Kayu Aro ( Hotel ) ( – / – / – )
เดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ไปปาดังด้วยไฟล์ทเช้าสุด พอถึงสนามบินแล้วผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง ก่อนจะหาข้าวเช้ากินง่ายๆ ที่สนามบิน และรอเดินทางไปยังเมือง Kayu Aro ที่ใกล้กับทางขึ้นเขาเครินซี ระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง นั่งๆ นอนๆ ยืนๆ กินๆ บนรถตู้จนถึงเมืองก็เย็นพอดี ถึงที่พักในช่วงเย็นๆ ก่อนจะฟังบรีฟการเตรียมตัว เส้นทางต่างๆ ตรวจเช็คเอกสาร แยกย้ายพักผ่อน เตรียมตัวขึ้นเขาเครินซี่ในวันรุ่งขึ้นครับ
Day 2 : Kayu Aro – Kerinci Head trail – Shelter 3 ( B / L / D )
ตื่นเช้าทานข้าว เก็บสัมภาระให้เรียบร้อย ไม่เกินแปดโมงเช้าเดินทางไปยังุดลงทะเบียน เช็คข้อมูลต่างๆ จากทางอุทยาน ไม่เกินเก้าโมงเช้าเริ่มเดินครับ ระยะทางในครึ่งแรกก่อนจุดกินข้าวเที่ยงยังเป็นทางที่เลาะแนวป่าไปเรื่อยๆ ความชันแบบเนิบๆ เหมือนวอร์มร่างกาย แต่หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ความชันจะเปลี่ยนไปตามสภาพผืนป่า ร่องลึก และชันมาก แต่ก็ไม่ยากเกินสภาพร่างกายของนักท่องเที่ยวทั่วไปครับ อาจจะเหนื่อยหน่อยถ้าไม่ค่อยออกกำลังกาย แต่เชื่อเถอะว่ามันถึงเหมือนกัน
โดยปกติเราจะถึงแคมป์ที่พักประมาณสี่โมงเย็น ไม่เกิน หกโมงเย็น พักผ่อน เปลี่ยนชุดชมวิวเมือง Kayu Aro จากความสูง 3400 เมตร ท่ามกลางแสงพระอาทิตย์ตกก่อนจะล้อมวงทานข้าว ฟังบรีฟเตรียมตัว และแยกย้ายเข้านอนตามเต็นท์พักของตัวเองครับ
Day 3 : Shelter 3 – Summit – Kayu Aro – Padang ( overnight on bus ) ( B / L / – )
วันนี้ตื่นเช้าหน่อยนะครับ เพราะเราเริ่มดินซัมมิทประมาณตีสี่ พอทานข้าวเช้าเบาๆ พร้อมแล้ว เหลือความชันอีก 300 เมตรก็จะซัมมิท กับเวลาโดยเฉลี่ยที่ 2 ชั่วโมงเศษๆ ก็จะถึงบริเวณปากปล่อง และจุดสูงสุดของภูเขาไฟในอาเซียนแล้วครับ
เส้นทางไม่ได้โหดร้าย แต่ก็มีความชันที่พอสมควรในระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรเศษๆ อากาศค่อนข้างเย็น ลมแรงบางช่วง แต่ก็เป็นไปได้ที่จะซัมมิท พอถึงยอดแล้วดื่มด่ำกับความสำเร็จให้เต็มที่และกลับลงมาที่แคมป์เก็บสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อยพร้อมกับทางข้าวมื้อเที่ยงสักตอนสิบโมง ก่อนลงกลับในทางเดิมที่เราขึ้นมา โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ก็จะถึงที่อุทยาน นั่งรถกลับมาที่พัก อาบน้ำทานข้าวเย็นอิสระเตรียมตัวเดินทางกลับในช่วงกลางคืนครับ วันนี้เรานอนบนรถบัสฟีลเที่ยวป่าไทย ก็จะถึงสนามบินประมาณตีห้านิดๆ ครับ
Day 4 : Padang – KUL – Bangkok ( – / – / – )
วันนี้เทคไฟล์ทเดินทางยาวๆ กลับจากอินโดนีเซีย ข้ามกลับมามาเลเซีย และเดินทางกลับไทยตามความสะดวกครับ ถ้าใครคิดไม่ออกก็จะมีไฟล์ทแนะนำตามโน้ตเลยครับผม
———————— ———————
15,750 บาท( ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน )
ค่าใช้จ่ายนี้รวม
Package Inclusion:
● รถเดินทางไปกลับสนามบินปาดังแบบหมู่คณะ
● รถแห่เปิดประทุนจากโรงแรมไปกลับจุดเริ่มเดินแบบหมู่คณะ
● ค่าที่พักแบบหมู่คณะตามที่ระบุไว้ในโปรแกรม
● อาหารและน้ำระหว่างเดินป่า
● ไกด์นำทางที่ได้รับการอนุญาตจากอุทยานแห่งชาติ
● ประกาศนียบัตร
● ลูกหาบแบกของกองกลางและเต็นท์
● ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ
● Mount Kerinci 2 Days 1 Night
● One Day Trip Gunung Tujuh Lake
● อุปกรณ์สำหรับแคมป์ปิ้งที่รวมแล้ว
– Tent: 2 persons in a tent
– Light for tent
– Mattress
– Sleeping pad
– Sleeping bag
– Outdoor Chair and table
– Toilet tent
– Tableware
– Cooking Set
● First Aid Kit
● Climbing Certificate
✅ Insurance of the trip :-ประกันอุบัติเหตุระหว่างทริปจากคัมอร ( ขอดูรายละเอียดประกัน และวงเงินได้ที่ทีมงานคัมอร )
Exclusions: ไม่รวม
Flight Fares
ค่าเดินทางด้วยเครื่องบิน
Any type of personal expenses.
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
Food (B & L) during Stay & travel time (KK).
ค่าอาหารระหว่างเดินทาง
Team or Staff tips are not included in trip cost.
ทิปไกด์และทีมงานอินโดนีเซีย
Personal gear, and equipment
อุปกรณ์ส่วนตัวต่างๆ
Porter Fee // 350,000 IDR per day
ค่าลูกหาบแบกของส่วนตัว วันละ 350,000 รูเปียห์ 900 บาท/วัน
———————— ———————
เงื่อนไขการจองทริป
#โปรดมั่นใจว่าเดินทางได้นะครับ
Ealry Bird : ยืนยันการเดินทางภายในปี 2024 ด้วยการมัดจำ 3,750 บาท รับฟรี ค่าจ้างแบกสัมภาระส่วนตัว ( มูลค่า 700,000 รูเปียห์ ) ไม่เกิน 7.5 กิโลกรัม ( ไม่รวมกับของกองกลาง ของเราเพียวๆ )
ยืนยันการเดินทางโดยการมัดจำ 3,750 บาท
ชำระในเดือน ธันวาคม 2568 : 6,000 บาท
ชำระก่อนเดินทาง 30 วัน : 6,000 บาท
หรือจะสะดวกชำระตามงวดได้ตามตกลงกับทีมงานได้เลยครับ
สงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกกรณี หลังจากชำระตามงวดเรียบร้อยแล้ว
สามารถหาสมาชิกมาแทนได้ ในกรณีที่เดินทางไม่ได้
สัญญาการซื้อบริการ มีผลผูกมัดเมื่อท่านชำระเงินตามข้อตกลงแล้ว
ชำระเงินโดยโอนเข้าบัญชี :
บริษัท คัมอรแอนด์ไลฟ์พลอเรอร์ ( ประเทศไทย ) จำกัด
PROMTPAY 094-5248118 ( ธีรภัทร์ สุทธินันท์ )
Line ID : @comeonthailand
INBOX : https://www.facebook.com/LifeisJourneybyNonny/messages
*** กรุณาเก็บสลิปโอนเงินไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยัน ***
———————— ———————